วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551







ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกปี ค.ศ 1960 ในประเทศสหรัฐอเมริกา บางครั้งเรียกว่าคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computer) มีหน่วยวัดความเร็วเป็นนาโนวินาที (nanosecond) คือเศษหนึ่งส่วนพันล้านวินาทีหรือการคำนวณหนึ่งพันล้านครั้งใน 1 วินาที สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน เหมาะสำหรับการรับและการแสดงผลจำนวนมาก ใช้ในงานวิเคราะห์ คำนวณด้านวิทยาศาสตร์ เช่น งานวิเคราะห์พยากรณ์อากาศวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ



เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดสามารถทำงานได้เร็วที่สุดความเร็วในการประมวลผล แลการรับส่งข้อมูลเหนือกว่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ และเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีราคาแพงที่สุด ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มัใช้กับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่สำคัญและใช้กับงานเฉพาะด้าน สามารถทำการประมวลผลในงานต่าง ๆ กันในเวลาพร้อมกันการประมวลผลภายใน 1 นาที ถ้าเทียบกับการทำงานของเครื่อง พีซี อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จัดเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูง สถาปัตยกรรมภายในเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลภายในเป็นจำนวนมาก โดยที่หน่วยประมวลผลแต่ละตัวจะประมวลผลให้กับปัญหาหนึ่ง ๆ ที่เข้ามาพร้อม ๆ กัน จึงทำให้สามารถทำการประมวลผลในงานต่าง ๆ กัน ในเวลาพร้อม ๆ กันด้วยความรวดเร็วซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เกิดขั้นมาก่อนและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด ได้แก่ ยี่ห้อเครย์ (Cray) ซึ่งผลิตโดยบริษัท Cray Research เครย์รุ่นแรกเป็นเครื่องที่มีซีพี่ยูเพียงตัวเดียวและใช้งานแบบผู้ใช้คนเดียว ต่อมาได้มีการผลิตเครย์ตามมาอีกหลายรุ่นเปลี่ยนมาเป็นระบบผู้ใช้หลายคนเป็ฯเครื่องมัลติโปรเซสเซอร์ มีซีพียูหลายตัว ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ออกมาในปลายปี ค.ศ. 1993 คือรุ่น T3D ได้เปลี่ยนจากระบบมัลติโปรเซสเซอร์ไปเป็นระบบ โปรเซสเซอร์จำนวนมาก ระบบเริ่มต้นที่มีโปรเซสเซอร์ตั้งแต่ 32 ตัว จนถึง 2048 ตัว โดยเพิ่มขั้นละ 2 เท่าตัว จาก 32 เป็น64,128,256,512,1024 และ 2048รูปที่ 10 Cray2 ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (ที่มา : DUFFY ,1992:68)สำหรับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในเอเซีย ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่มีศักยภาพในการผลิตซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มาแข่งกับสหรัฐ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่นมีการผลิตจากหลายบริษัท เช่น NEC,HITACHI,FUJITSU โดยเฉพาะซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ NEC SXX/44 ซึ่งญี่ปุ่นกล่าวว่า เป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วในสุดในโลกนับตั้งแต่มีการผลิตซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องแรกจนกระทั่งถึงปี ค.ศ 1992ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ถูกใช้ในงานทางด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีความแม่นยำในการคำนวณสูงมาก โดยเฉพาะการสร้างโมเดลของคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า ซิมูเลชั่น (Simulation) เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการสำรวจเกี่ยวกับแผ่นดินไหว การสำรวจแหล่งน้ำมัน การพยากรณ์อากาศและการคาดการณ์เกี่ยวกับการแพร่กระจายของสิ่งแวดล้อมเป็นพิษซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ราคาหลายร้อยล้านบาท ถึงพันกว่าล้านบาทและในแต่ละปีจะผลิตน้อยมาก เนื่องจากซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูง ราคาแพง ดังนั้นในการนำซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มาใช้ควรพิจารณาความเหมาะสมของงาน หรือจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับประเทศไทยปัจจุบันมีซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใช้แล้วหลายแห่ง เช่น ท ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็คทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) มี 2 เครื่องสำหรับให้บริการมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และหน่วยราชการต่าง ๆท มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มี 1 เครื่อง สำหรับให้บริการทางด้านวิชาการ งานวิจัยต่าง ๆ ท กรมอุตุนิยมวิทยา มี 1 เครื่อง ใช้ในการพยากรณ์อากาศฉะนั้นสรุปได้ว่า ข้อแตกต่างระหว่างไมโครคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่จะแตกต่างกันในด้านความสามารถในการเก็บข้อมูล และความเร็วในการทำงานเนื่องจากมินิคอมพิวเตอร์และเมนเฟรมมีหน่วยความจำขนาดใหญ่เก็บข้อมูลได้ยาก และสามารถประมวลผลโปรแกรมที่มีความซับซ้อนในเวลาที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถประมวลผลกับโปรแกรมหลาย ๆ โปรแกรมในเวลาพร้อมกันและผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ คนสามารถใช้เครื่องพร้อม ๆ กันเวลาเดียวกันได้
ที่มา : www.cosmiverse.com